วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2555

ความเชื่อที่ผิดๆเกี่ยวกับหมอดู







   1. อย่าดูดวงบ่อยเกินเดือนละครั้ง ความเชื่อนี้ได้รับอิทธิพลมาจากการดูดวงโดยใช้การสุ่มทาย การเสี่ยงทายเพื่อดูดวง ซึ่งจะข้องเกี่ยวกับการดูดวงแบบไพ่ยิปซี ไพ่ป๊อก ทาโรท์ เซียมซี หรือใช้อุปกรณ์อื่นใดมาเพิ่มเสริมในการเสี่ยงทายที่เข้าลักษณะการสุ่มทาย ซึ่งการดูดวงประเภทนี้จำเป็นต้องมีการทิ้งระยะห่างในการดูดวงเพื่อความแม่นยำ แต่แท้จริงแล้วศาสตร์ที่ใช้ในการทำนายดวงมีอยู่หลายศาสตร์ด้วยกัน ศาสตร์อื่นๆ ที่ไม่ใช่การสุ่มทายสามารถดูได้บ่อยเมื่อไหร่ก็ได้เท่าที่ต้องการ เช่น การดูลายมือ โหราศาสตร์ เลข 7 ตัว โหงวเฮ้ง เลขศาสตร์ เป็นต้น  

   2. วิชาที่แม่นที่สุด หลายคนพยายามเสาะหา ถามคนรอบข้างถึงศาสตร์การพยากรณ์ที่แม่นยำที่สุด ที่เป็นที่เลื่องลือที่สุด บางคนเสาะหาค้นคว้าอย่างขมักเขม้นเพื่อต้องการหาหมอดูหรือนักพยากรณ์ที่มีศาสตร์ที่ใช้ในการพยากรณ์ที่แม่นยำที่สุดอันเป็นตำนานมาเป็นหมอดูคู่ใจประดับบารมี  หรือมีนักเรียนการพยากรณ์หน้าใหม่ที่พยายามหาศาสตร์การพยากรณ์ที่ได้รับการบอกต่อแบบปากต่อปากว่าเป็นวิชาขั้นเทพ ขั้นสุดยอด ต้องหามาเรียนรู้ให้ได้ เพื่อที่จะเป็นหมอดูหรือนักพยากรณ์ที่สามารถดูดวงได้แม่นยำที่สุดระดับเทพ แต่แท้จริงแล้ววิชาหรือศาสตร์เป็นเพียงเครื่องมือที่ใช้ในการพยากรณ์เท่านั้น ไม่ว่าศาสตร์ใดๆ ก็ตามก็ล้วนแต่สามารถพลิกแพลงต่อยอดให้มีความละเอียดแม่นยำยิ่งๆ ขึ้นไปได้ทั้งหมด ทั้งนี้ทั้งนั้นจะสามารถทำนายได้แม่นยำละเอียดขนาดไหนอยู่ที่ประสบการณ์ พรสวรรค์ การช่างสังเกตุ ความคิดสร้างสรรค์ และการเรียนรู้เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาต่อยอดวิชาที่ใช้ให้มีความละเอียดชัดเจนมากขึ้นของตัวหมอดูหรือนักพยากรณ์เอง ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่า

3. หมอดูต้องรับขันธ์ครู เป็นเรื่องของไสยศาสตร์ความเชื่อ เป็นพิธีที่มีการสืบต่อกันมานมนานเพื่อเป็นการแสดงออกถึงการยอมรับเป็นศิษย์ การฝากเนื้อฝากตัว และเป็นการสร้างความมั่นใจในการทำนายทายทัก เพราะการดูดวงเป็นงานที่ต้องมีการพบปะผู้คนหลากหลายวงการ ต้องเจอทั้งคนมีชื่อเสียง คนที่มีบารมีมากในสังคม และคนทั่วไปซึ่งส่วนใหญ่ไม่ใช่คนที่รู้จักคุ้นเคยจึงทำให้เกร็งและทำนายไม่ออกเอาได้ง่ายๆ  หมอดูหน้าใหม่จึงต้องการเพิ่มความมั่นใจด้วยการไปหาอาจารย์เพื่อฝากเนื้อฝากตัวและขอเป็นศิษย์ ขอวิชาเพิ่มความขลัง จะได้มีความมั่นใจมากขึ้นในการไปทำนายทายทักให้ผู้อื่นได้ บางคนถึงขนาดเข้าใจว่าถ้าไม่ได้รับขันธ์จะทำนายไม่ออก ทำนายพลาด ดวงไม่เปิด จะป่วยได้ง่าย แต่พอรับขันธ์แล้วสามารถทำนายได้ลื่นอย่างคาดไม่ถึง แต่แท้ที่จริงแล้วมีผู้ที่เป็นหมอดูมากมายที่ไปรับขันธ์ครูมาแต่ทำนายพลาด ดูดวงไม่เข้าเป้าออกทะเลมีให้เห็นอยู่ทั่วไป การรับครู หรือการไหว้ครูนั้น สามารถทำได้เองที่บ้าน สามารถนั่งสมาธิภาวนาขอพรระลึกถึงครูบาอาจารย์ผู้ที่พัฒนาต่อยอดวิชา รวมไปถึงอาจารย์ที่ล่วงลับไปแล้ว ระลึกถึงพ่อแก่จากในสมาธิได้เลย ไม่จำเป็นจะต้องไปที่ตำหนักใดๆ ก็สามารถที่จะไหว้ครูได้  ครูที่ดีที่สุดคือตำรา อาจารย์ที่สอนวิชาเรามา รวมไปถึงลูกค้าทุกคนที่มาดูดวงกับเราล้วนแล้วแต่เป็นครูที่จะทำให้เราสามารถเข้าใจในหลักการณ์พยากรณ์ได้อย่างลึกซึ้งแม่นยำมากขึ้นได้ทั้งหมด

4. การแก้กรรมจะมีพิธีกรรมที่ต้องใช้เงินสูง  เป็นหลุมพรางหลอกล่อของผู้ที่ไม่ประสงค์ดีที่หวังจะได้เงินก้อนโต เป็นการหากินกับความเชื่อ ความกลัว ความไม่รู้ของผู้ที่มารับการทำนาย โดยผู้ที่เป็นหมอดูจะทำนายทายทักหลอกล่อให้เชื่อถึงเรื่องไม่ดี เรื่องน่ากลัว การสูญเสียบุตร บิดามารดา คนอันเป็นที่รัก ของรัก ซึ่งมีมูลค่าสูงมากกว่าตัวเงิน ทำให้ผู้ที่มาดูดวงเกิดความกลัวและยอมแลกด้วยเงินก้อนโตที่มีหรือถ้าไม่มีก็ต้องไปกู้หยิบยืมเขามา ต้องยอมจ่ายเพื่อให้สิ่งชั่วร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้นเปลี่ยนเป็นไม่เกิดจากการทำพิธีของหมอดูผู้นั้น  แท้จริงแล้วการแก้กรรมนั้นไม่ต้องมีพิธีกรรมอะไรที่วุ่นวายหรือใช้เงินจำนวนมากขนาดนั้น หากกรรมมันถูกสร้างขึ้นแล้วยังไงก็ตามก็ต้องรับกรรมนั้น เพียงแต่การแก้กรรมหรือถ้าเรียกให้ถูกต้องจริงๆ คือการบรรเทากรรมนั้นทำได้ง่ายๆ ทำได้เอง  แค่เพียงรู้จักการทำบุญให้ถูกต้อง การทำบุญให้ตรงจุดเท่านั้นเอง กรรมก็จะบรรเทาจากหนักเป็นเบาได้ครับ